นื่องจากประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “สังคมผู้สูงอายุ”  

จากสถิติผู้สูงอายุในประเทศไทยนับจากปี พ.ศ.2538 จนถึง ปีพ.ศ.2553 จำนวนผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จากเดิม 4,816,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 7,639,000 คน ในกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 75 ปี จากเดิม 948,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 1,588,000 คน และจากข้อมูลสถิติการฆ่าตัวตายในประเทษไทยของกรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณะสุข พบว่า ผู้สูงอายุ มีอัตราการฆ่าตัวตายมากขึ้นแซงหน้ากลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 20-29 ปี โดยกลุ่มผู้สูงอายุในวัย 70-74 ปี มีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มผู้สูงอายุวัย 80-84 ปี สาเหตุจากการฆ่าตัวตายที่เพิ่มมากขึนในกลุ่มของผู้สูงอายุนั้น เนื่อมาจาก บุคคลเหล่านี้ประสบปัญหาหลายด้านเช่น ความเครียดด้านสุขภาพ การพลัดพรากจากสามีหรือภรรยาที้องตายจากกัน ความเหงา และสภาพที่ต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพังจนเกิดความสิ้นหวังที่ตนเองต้องมาเป็นภาระแก่ลูก ๆ ดังนั้น ผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ในทุก ๆ ด้าน จากหน่วยงานที่ให้บริการด้านสุขภาพรวมถึงการได้รับการบริการด้านสาธารณสุข การออกไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพังในบ้าน รวมถึงการจัดสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุด้วย

ความเป็นมาของโครงการ

การเยี่ยมบ้านผู้อายุ คามิลเลี่ยนโซเชียล เซนเตอร์ จันทบุรี ของพระสังฆราช ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธ์ เมื่อต้นปี พ.ศ.2554 ทำให้ท่านเกิดแนวความคิดและมีความปรารถนาที่จะเชิญชวนให้ คณะนักบวชคามิลเลียน มาทำงานด้านผู้สูงอายุในเขตสังฆมณฑลนครราชสีมา เช่นเดียวกับที่ได้ทำที่สังฆมณฑลจันทบุรี ข้อตกลงร่วมกันที่จะสร้างบ้านผู้สูงอายุจึงเกิดขึ้นหลังจากนั้น 3 เดือนต่อมา โดย คุณพ่อเชิดชัย เลิศจิตรเลขา เจ้าคณะนักบวชคามิลเลียน ได้จัดตั้งทีมงานเพื่อบริหารโครงการและจัดเตรียมแผนแม่บท (Master Plan) โดยพระสังฆราช ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ต้องการที่จะให้โครงการนี้ เป็นเครื่องหมายแห่งการแพร่ธรรมของพระศาสนจักรคาทอลิก เป็นการแสดงถึงความเมตตาและความรักต่อผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยพระสังฆราช ได้มองที่ดินจำนวน 18 ไร่ มีพื้นที่ประมาณ 28,800 ตารางเมตร ที่อยู่ใจกลางเมืองโคราชและเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือด้านการระดมทุนในการก่อสร้าง

 

 

งบประมาณในการก่อสร้างและการดำเนินงาน

 

            การก่อสร้างบ้านผู้สูงอายุในพื้นที่ภาคอีสานเป็นการดำเนินโครงการแบบที่ให้การบริการครบวงจรแต่อยู่ในราคาที่ย่อมเยา ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่มีมากขึ้น โดยงบประมาณส่วนหนึ่งนั้นมาจาก มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทยและสังฆมณฑลนครราชสีมา

          การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรกเป็นการออกแบบบ้านผู้สูงอายุร่วมทั้งส่วนประกอบอื่น ๆ ในพื้นที่ทั้งหมด และ วางศิลาฤกษ์ใน เดือน มกราคม 2556 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการรองรับผู้สูงอายุได้จำนวน 50 คนแรกภายในสิ้นปี พ.ศ.2557 และ จะค่อย ๆ ก่อสร้างเพิ่มเติมจนกว่าจะครบ 150 คน ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ พื้นที่ทั้งหมดในการก่อสร้างประมาณ 11,000 ตารางเมตร อาคารที่สร้างสำหรับรองรับผู้สูงอายุจะเป็นอาคาร 2 ชั้น รวม 6 อาคาร งบประมาณการก่อสร้างเฉพาะตัวอาคาร รวม 80,000,000 บาท (แปดสิบล้านบาท) ส่วนระบบสาธารณูปโภคภายในอาคาร เช่น ลิฟต์ไฮโดรลิค 2 ตัว ระบบไฟฟ้า-ประปา ระบบเก็บกักน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบรักษาความปลอดภัย เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งถนน ซึ่งจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างส่วนนี้อีกจำนวน 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาท)

          เริ่มต้นในปี พ.ศ.2555 สังฆมณฑลนครราชสีมาและมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย มอบทุนทรัพย์ส่วนแรกในการก่อสร้างโครงการ หน่วยงานละ 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) และในปี พ.ศ. 2556 จะมอบทุนทรัพย์เพิ่มเติมอีก หน่วยงานละ 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้นที่ได้รับการสนับสนุนจากสังฆมณฑลนครราชสีมาและมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทยจำนวน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาท) ซึ่งยังคงขาดงบประมาณอีกเป็นจำนวน 70,000,000 บาท (เจ็ดสิบล้านบาท) การขอรับบริจาคจากู้ที่มีจิตศรัทธา จีงเป็นสิ่งจำเป็นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และ ได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2555 และจะยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ  จนกว่าโครงการนี้จะเสร็จสมบูรณ์

 

 

อาคารสำนักงานเพื่อใช้ในการระดมทุนและประชาสัมพันธ์ภายในโครงการหลังแรกก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว และบ้านผู้สูงอายุเฟสแรก จะเริ่มโครงการในเดือนพฤศจิกายน 2556 คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการรองรับผู้สูงอายุได้จำนวน 50 ท่านแรก ภายในปี พ.ศ.2558 พื้นที่ในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 11,000 ตารางเมตร เป็นอาคาร 2 ชั้น จำนวน 7 หลัง และงบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 110,000,000 บาท (หนึ่งร้อยสิบล้านบาท) โดยแบ่งเป็นตัวอาคาร 80,000,000 บาท (แปดสิบล้านบาท) และระบบสาธารนูปโภคทุกอย่างภายในโครงการ อีก 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาท) และในเวลานี้ สังฆนณฑลนครราชสีมาและมูลนิธินักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทยได้มอบทุนทรัพย์ส่วนแรกในการก่อสร้าง หน่วยงานละ 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) และในปี 2556 จะมอบทุนทรัพย์เพิ่มอีกหน่วยงานละ 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) รวมเป็นเงินงบประมาณสนับสนุนทั้งสิ้น  40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาท) แต่ยังคงขาดเงินงบประมาณอีกจำนวน 70,000,000 บาท (เจ็ดสิบล้านบาท) ซึ่งจำเป็นต้องขอรับบริจาคและเริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ดำเนินงานโดยคณะนักบวชคามิลเลียน


คณะนักบวชคามิลเลียน สมาของคณะได้เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2495 เพื่อทำงานด้านสุขภาพอนามัยของผู้ป่วยและคนยากจน ภายใต้การจดทะเบียนเป็น “มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย” เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ มีหน่วยงานหลักรวมทั้งสิ้น 17 แห่ง เช่น โรงพยาบาล, บ้านผู้สูงอายุ, ศูนย์ผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย, ศูนย์อบรมเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อเอช.ไอ.วี/เอดส์, ศูนย์อบรมเยาวชนชาวเขา, ศูนย์อบรมและพัฒนาเด็กพิการ และ ศูนย์อบรมสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกของคณะเป็นต้น และ ในปี พ.ศ.2555 คณะนักบวชคามิลเลียน ได้ขยายงานเข้าสู่ภาคอีสาน ตามคำเชิญของ พระสังฆราชชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประมุขแห่งสังฆมณฑลนครราชสีมา ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่า เชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพในการให้บริการด้านสุขภาพอนามัยของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้บริการด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ

ที่พักและการดูแลผู้สูงอายุในราคาที่ย่อมเยา


    บ้านผู้สูงอายุ จะเปิดรับผู้สูงอายุที่พักประจำ จำนวน 150 คน และ แบบเช้าไป-เย็นกลับ (Day Care) อีกจำนวน 50 คน มีเจ้าหน้าที่ ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในการดูแลให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของแต่ละบุคคคล รวมถึงกรณีที่ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังซึ่งจะได้รับการดูแลโดยความร่วมมือจากบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในตัวเมืองโคราช
    การให้บริการแบบเช้าไป-เย็นกลับ (Day Care) ซึ่งเปิดบริการเฉพาะ วันจันทร์ - วันศุกร์ เป็นการเปิดบริการสำหรับครอบครัวของผู้สูงอายุที่ลูก ๆ ไม่มีเวลาดูแลแต่ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอยู่คนเดียวตามลำพัง แผนกนี้ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและมีความสุขที่สุดในบั้นปลายชีวิต

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.09 น. ได้มีพิธีเสกบ้านผู้สูงอายุราชสีมาโดยมุกขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประมุขแห่งสังฆมณฑลนครราชสีมา เป็นประธาน จัดขึ้น ณ วัดนักบุญคลารา ภายในบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ซึ่งได้ทำการเสกอาคารต่างๆภายในบ้านผู้สูงอายุราชสีมา โดยได้ตั้งชื่ออาคารต่างๆตามชื่ออำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ อาคารโชคชัย อาคารครบุรี อาคารจักราช อาคารบัวใหญ่ อาคารพิมาย อาคารปักธงชัย อาคารวังน้ำเขียว อาคารด่านขุนทด และ อาคารสีดา โดยภายในบริเวณงาน มีการจัดแสดงนิทรรศการ การออกโรงทาน โดยมีสัตบุรุษและประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ 
ประมุขแห่งสังฆมณฑลนครราชสีมา
ประธานในพิธีเสกบ้านผู้สูงอายุราชสีมา

บาทหลวงเชิดชัย เลิศจิตรเลขา

ประธานมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย

เวลา 10.30 น. ณ อาคารโชคชัย บ้านผู้สูงอายุราชสีมา นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดบ้านผู้สูงอายุราชสีมา โดยมี มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประมุขแห่งสังฆมณฑลนครราชสีมา บาทหลวงเชิดชัย เลิศจิตรเลขา ประธานมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย และ บาทหลวงโจวันนี กอนตาริน ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ให้การต้อนรับ และร่วมตัดริบบิ้น เปิดบ้านผู้สูงอายราชสีมาอย่างเป็นทางการ และได้เชิญท่านรองผู้ว่าฯ เยี่ยมชมห้องต่างๆภายในบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ได้แก่ ห้องพยาบาล ห้องกายภาพ อาคารโภชนาการ ห้องพักเตียงเดี่ยว ห้องพักเตียงคู่ และห้องพัก 8 เตียง และร่วมรับประธานอาหารกลางวัน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารวังน้ำเขียว โดยมีการแสดงจาก วงออร์เคสตรา โรงเรียนมารีย์วิทยา การแสดงจากผู้สูงอายุของสังฆมณฑลนครราชสีมาและผู้สูงอายุจากบ้านธรรมปกรณ์ การแสดงจากวิทยาลัยมารีย์บริหารธุรกิจ โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา และโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยา

นายธนพล จันทรนิมิ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

ประธานในพิธีเปิดบ้านผู้สูงอายุราชสีมา

วันที่ 25 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. ได้รับเกียรติจาก อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยมี ท่านสาโรจน์ ยอดประดิษฐ์ เลขานุการกรม และ ผู้อำนวยการ ศคบ. เป็นตัวแทนของอธิบดี พร้อมคณะรวมจำนวน 40 ท่าน เข้าเยี่ยมชมบ้านผู้สูงอายุราชสีมา โดยมีบาทหลวงสัมพันธ์ วาปีโส ผู้อำนวยการบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่นเป็นกันเอง โดยท่านผู้อำนวยการบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ได้กล่าวต้อนรับ ชมการแสดงการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ และพาเดินเยี่ยมห้องต่างๆ ดังนี้
1.) ห้องจัดเก็บยา และห้องพยายาล 2.) ห้องฟื้นฟูร่างกายหรือห้องกายภาพ 3.) หอศิลปะบำบัด 4.) สวนผัก และพืชริมรั้ว กินได้ 5.) วอร์ดรวมผู้ผู้สูงอายุหญิง คามิลลา ทางคณะเข้าเยี่ยม สบส . ได้พบ กับคุณยายเรียบ ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 100 ปี 6.) วอร์ดรวมผู้สูงอายุชาย คามิลโล 7.) วัดน้อยนักบุญคลาลา
 
ชมภาพเพิ่มเติม คลิกที่นี่
 

Read more...

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 บ้านผู้สูงอายุราชสีมา ได้มีโอกาสต้อนรับ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา และคณะผู้ติดตาม ในการศึกษาดูงานบ้านผู้สูงอายุราชสีมา โดยมี คุณพ่อโจวันนี คอนตาริน อธิการบ้านผู้สูงอายุราชสีมา คุณพ่อรัชนัย อ้อมนอก ผู้อำนวยการบ้านผู้สูงอายุราชสีมา คุณพ่อวิโรจน์ นันทจินดา จิตตาภิบาล ได้ให้การต้อนรับ พร้อมบอกเล่าถึงความเป็นมาของบ้านผู้สูงอายุราชสีมา พร้อมทั้งนำชมส่วนต่างๆของบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ทั้งห้องพระ ห้องพัก อาคารศิลปะ

Read more...